2012年2月29日星期三

การศึกษาปัญหาการใช้คำถามภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล


ชื่อสารนิพนธ์ภาษาจีน:       关于学生使用汉语“问句”的问题研究 
                           
研究对象: 乌汶府娜丽努功学校高中中文专业学生。
ชื่อสารนิพนธ์ภาษาไทย:         การศึกษาปัญหาการใช้ประโยคคำถามภาษาจีน กรณีศึกษา : นักเรียน

                                                     ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สายศิลป์-ภาษาจีนโรงเรียนนารีนุกูล
ชื่อสารนิพนธ์ภาษาอังกฤษ:  A study of problems in Chinese interrogative. Case study: 
                                                     Arts –Chinese students in Narinukun high school.





ผู้จัดทำ นางสาวณัฐภรณ์ เกิดแสง

อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์วกุล นิมิตโสภณ




บทคัดย่อ

หัวข้อวิจัย   : การศึกษาปัญหาการใช้คำถามภาษาจีน
         กรณีศึกษา นักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล
คำสำคัญ :      ประโยคคำถาม, ภาษาจีน, รูปแบบและวิธีการใช้ประโยคคำถาม, ปัญหาการใช้ประโยคคำถาม

                ประโยคคำถามภาษาจีนมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบต่างก็มีวิธีการใช้ของตัวเอง ดังนั้นจึงเกิดปัญหามากมายสำหรับการเรียนประโยคคำถามในภาษาจีนเพื่อให้การเรียนการสอนภาษาจีนสำหรับนักศึกษาไทย มีคุณภาพมากขึ้น จึงทำให้เกิดงานวิจัยชิ้นนี้ขึ้น
                งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาความหมายของประโยคคำถาม รูปแบบและวิธีการใช้ประโยคคำถามในภาษาจีน รวมถึงศึกษาปัญหาการใช้ประโยคคำถามในภาษาจีน กรณีศึกษา : นักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล โดยการศึกษข้อมูลจากหนังสือ เอกสารงานวิจัย และสื่ออินเตอร์เน็ต และการใช้แบบสอบถามและแบบทดสอบ
                จากผลการวิจัยพบว่า ประโยคคำถามในภาษาจีนแบ่งเป็น 7 รูปแบบ คือ
1. ประโยคคำถามแบบที่ใช้ ,
2. ประโยคคำถามแบบที่ใช้ปฤจฉาสรรพนาม,
3. ประโยคคำถามแบบยืนยัน-ปฏิเสธ,
4. ประโยคคำถามแบบที่ใช้คำสันธาน 还是,
5. ประโยคคำถามแบบที่ใช้ 是不是,
6. ประโยคคำถามแบบที่ใช้คำกริยาวิเศษณ์,
7. ประโยคคำถามแบบที่ใช้
            นักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล มีความรู้ความเข้าใจ การใช้ประโยคคำถามภาษาจีนดังต่อไปนี้
1. ประโยคคำถามแบบที่ใช้ 66.66%,
2. ประโยคคำถามแบบที่ใช้ปฤจฉาสรรพนาม 75%,
3. ประโยคคำถามแบบยืนยัน-ปฏิเสธ 66.67%,
4. ประโยคคำถามแบบที่ใช้คำสันธาน 还是25%,
5. ประโยคคำถามแบบที่ใช้ 是不是50%,
6. ประโยคคำถามแบบที่ใช้คำกริยาวิเศษณ์91.66%,
7. ประโยคคำถามแบบที่ใช้ 83.33%
                ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลการศึกษานี้สามารถใช้ในการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจการใช้ประโยคคำถามและการใช้ประโยคคำถามอย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น ทำให้การเรียนการสอนภาษาจีนมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

------------------------------------------------------------------

摘要

           
题目  关于大学生使用汉语“疑问句”的问题研究
        研究对象:乌汶府娜丽努功学校高中中文专业学生。
关键词:疑问句, 汉语,疑问句的形式和用法,使用疑问句的问题

    汉语中,疑问句有很多形式,各种形式都有自己的用法,使学习汉语的泰国学生学习汉语“疑问句”遇到很多的问题。为了提高汉语教学水平,因此现出本文之研究。

这项研究的目的是对汉语“疑问句”的意义﹑形式和用法,以及学生使用汉语“疑问句”时出现的问题进行研究。研究对象是乌汶府娜丽努功学校高中中文专业学生。研究手段包括借助书籍,文献研究及网络媒体,以及用调查问卷方法收集资料。

      研究的成果:汉语“疑问句”一共有七种形式:
1. 使用“吗”疑问句的形式,
2. 使用疑问代词疑问句的形式,
3. 正反疑问的形式,
4. 使用连词“还是”疑问句的形式,
5. 使用“是不是” 是非疑问句的形式,
6. 使用副词“多”疑问句的形式,
7. 使用“呢”疑问句的形式

      研究结果发现乌汶府娜丽努功学校高中中文专业学生理解“疑问句”程度排序如下:
1. 使用“吗”疑问句的形式66.66%,
2. 使用疑问代词疑问句的形式75%,
3. 正反疑问的形式66.67%,
4. 使用连词“还是”疑问句的形式25%,
5. 使用“是不是”是非疑问句的形式50%,
6. 使用副词“多”疑问句的形式91.66%,
7. 使用“呢”疑问句的形式83.33%

                研究者希望这项研究的成果可以应用于教学中,使学生正确理解和掌握汉语“疑问句”,用于发展汉语教学。


________________________________________________________



บทที่ 5第五章

บทสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
研究成果

การศึกษาปัญหาการใช้ประโยคคำถามภาษาจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความหมายของประโยคคำถาม รูปแบบและวิธีการใช้ประโยคคำถามในภาษาจีน รวมถึงศึกษาปัญหาการใช้ประโยคคำถามในภาษาจีน โดยการศึกษารูปแบและวิธีใช้ประโยคคำถาม มีทั้งหมด 7 รูปแบบด้วยกัน คือ
1.         ประโยคคำถามแบบที่ใช้ ,
2.      ประโยคคำถามแบบที่ใช้ปฤจฉาสรรพนาม,
3.      ประโยคคำถามแบบยืนยัน-ปฏิเสธ,
4.      ประโยคคำถามแบบที่ใช้คำสันธาน 还是,
5.      ประโยคคำถามแบบที่ใช้ 是不是,
6.      ประโยคคำถามแบบที่ใช้คำกริยาวิเศษณ์,
7.      ประโยคคำถามแบบที่ใช้
โดยการกำหนดขอบเขตการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล ทั้ง 3 ชั้นปี แล้วนำปัญหาที่พบมาวิเคราะห์ ซึ่งเมื่อศึกษาเรียบร้อยแล้วจะทำให้เข้าใจปัญหาการใช้ประโยคคำถาม และนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ทั้งยังสามารถพัฒนาไปถึงการเรียนการสอนภาษาจีนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
ในบทนี้จะกล่าวถึงการสรุปงานวิจัยที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รวบรวมมาทั้งหมดเพื่อศึกษาปัญหาการใช้ประโยคคำถามภาษาจีนของนักเรียนไทย ซึ่งแยกหัวข้อได้ดังนี้
5.1.สรุปผลการวิจัย 研究成果
5.2.ปัญหาอุปสรรค 研究的问题和阻碍
                                5.3.ข้อเสนอแนะ 研究的建议

5.1.สรุปผลการวิจัย 研究成果
ผู้วิจัยได้บทสรุปจากการศึกษา “ปัญหาการใช้ประโยคคำถามภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล” โดยการศึกษาวิจัย ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ว่า เพื่อศึกษาความหมายของประโยคคำถามภาษาจีน เพื่อศึกษารูปแบบและวิธีการใช้ประโยคคำถามภาษาจีน เพื่อศึกษาปัญหาในการใช้ประโยคคำถามภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล เพื่อนำผลที่ได้จากการศึกษาไปใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยคคำถามภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล เมื่อได้ดำเนินการศึกษาแล้ว สามารถสรุปได้ดังนี้
ปัญหาในการใช้ประโยคคำถาม
                จากการศึกษาปัญหาการใช้ประโยคคำถามภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล จำนวน 24 คน ทำให้ทราบผลการศึกษาว่า นักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล จำนวน 24 คน มีดังนี้
- ประโยคคำถามแบบที่ใช้ ตอบผิดร้อยละ33.33และตอบถูกร้อยละ 66.66
- ประโยคคำถามแบบที่ใช้ปฤจฉาสรรพนาม ตอบผิดร้อยละ 25 และตอบถูกร้อยละ 75
- ประโยคคำถามแบบยืนยัน-ปฏิเสธ ตอบผิดร้อยละ 33.33 และตอบถูกร้อยละ 66.67
- ประโยคคำถามแบบที่ใช้คำสันธาน 还是ตอบผิดร้อยละ 75 และตอบถูกร้อยละ 25
- ประโยคคำถามแบบที่ใช้ 是不是ตอบผิดร้อยละ 50 และตอบถูกร้อยละ 50
- ประโยคคำถามแบบที่ใช้ ตอบผิดร้อยละ 16.60 และตอบถูกร้อยละ 83.33
- ประโยคคำถามแบบที่ใช้คำกริยาวิเศษณ์ตอบผิดร้อยละ 8.33 และตอบถูกร้อยละ91.66
สาเหตุของปัญหา
รูปแบบที่นักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูลตอบผิดมากที่สุด คิดเป็น ร้อยละ 75 คือ ประโยคคำถามแบบที่ใช้คำสันธาน 还是 รองลงมา ตอบผิดร้อยละ 50 คือ ประโยคคำถามแบบที่ใช้ 是不是สาเหตุที่นักศึกษาตอบคำถามผิดเกิดจาก นักศึกษาใช้การเทียบกับประโยคในภาษาไทย และใช้ตามความรู้สึก จึงไม่คำนึงถึงหลักการและวิธีใช้ของแต่ละรูปแบบ จึงทำให้สับสนจนเกิดข้อผิดพลาดในการเลือกใช้คำและทำให้ประโยคผิดเพี้ยนไป

5.2.ปัญหาอุปสรรค 研究的问题和阻碍
                1. ปัญหาในการสืบค้นข้อมูล คือ ข้อมูลที่นำมาใช้อ้างอิงประกอบในการทำวิจัยยังมีจำนวน
                    น้อยข้อมูลบางเล่มก็แตกต่างกัน จึงทำให้ต้องใช้เวลาในการเลือกข้อมูลที่ถูกต้อง
                    นานพอสมควรบางข้อมูลไม่เจาะลึกเท่าที่ควรจึงต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลค่อน
                    ข้างนาน
                2. ปัญหาในการสำรวจข้อมูล เนื่องจากเวลาเรียนของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
    ไม่เหมือนกันทำให้เกิดความล่าช้า
                3. ปัญหาในการวิเคราะห์ข้อมูล เนื่องจากข้อมูลที่ได้เป็นตัวเลขและมีจำนวนมาก ทำให้ต้อง
                    มีความระมัดระวังในการหาผลลัพธ์และตรวจสอบความถูกต้อง

5.3.ข้อเสนอแนะ 研究的建议
การศึกษาปัญหาการใช้ประโยคคำถามภาษาจีน โดยรวมอยู่ในเกณฑ์ พอใช้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้และรูปแบบของประโยคคำถาม แต่ยังมีบางรูปแบบที่ยังมีปัญหาอยู่ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะประโยคคำถามมีหลายรูปแบบ ใช้ต่างกัน และไม่มีกฎแน่นอนตายตัว ดังนั้นควรนำรูปแบบประโยคคำถามเหล่านี้มาอธิบายหลักการใช้ ความหมาย และตัวอย่างเพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การใช้ประโยคคำถามในภาษาจีนนั้นมีรูปแบบและวิธีการใช้ที่หลากหลาย ดังนั้นการแปลประโยคที่ใช้ในการสื่อสารนั้นจึงมีความสำคัญ ควรสังเกตควบคู่ไปกับบริบทของประโยค ที่สำคัญคือการใช้บ่อยเพื่อให้เกิดความเคยชิน เป็นการช่วยเพิ่มทักษะในภาษาให้ดียิ่งขึ้นอีกวิธีหนึ่ง
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ เป็นการศึกษาเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเรื่องรูปแบบและวิธีการใช้ประโยคคำถามภาษาจีน และศึกษาเพื่อให้ทราบถึงปัญหาการใช้ประโยคคำถามภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมปลายสายศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนนารีนุกูล ไม่ได้เน้นเรื่องการศึกษาวิเคราะห์รูปแบบของประโยคคำถามโดยตรง ดังนั้น เรื่องการศึกษาวิเคราะห์รูปแบบของประโยคคำถาม จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและควรจะมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปอีก

1 条评论: