2011年3月18日星期五

การศึกษาปัญหาการใช้ไวยากรณ์“跟” และ “和” ของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

ชื่อสารนิพนธ์ภาษาจีน        :     乌汶大学人文学院中文专业学生使用“跟”与
                       “和” 语法问题的研究
ชื่อสารนิพนธ์ภาษาไทย      :   การศึกษาปัญหาการใช้ไวยากรณ์ “跟” และ“和” ของ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ชื่อสารนิพนธ์ภาษาอังกฤษ :             A study’s problems of using the“跟” and “和”  
 of Chinese major  students, Faculty of Liberal Arts, Ubon Ratchathani  University. 
ชื่อผู้เขียน                   :        นางสาวกาญจนา ประมูลลี     50147521
                                               นางสาวลีลาวดี  บุรัสการ         5114442650
อาจารย์ที่ปรึกษา        :        อาจารย์ณัฐพัชร์  เตชะรุ่งไพศาล
อาจารย์เจ้าของภาษา        :         王薇老师  
บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง                  การศึกษาปัญหาการใช้ไวยากรณ์ และ ของนักศึกษาสาขาวิชา
                                ภาษาจีน  คณะศิลปศาสตร์  มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
คำสำคัญ               ไวยากรณ์จีน      คำบุพบท      คำสันธาน                          

                การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาการใช้ไวยากรณ์ และของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยการแจกแบบสอบถามให้นักศึกษาชั้นปีที่     1-4  จำนวน 41 คน  จากนักศึกษาจำนวนทั้งหมด 164  คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของทุกชั้นปี เมื่อคิดรวมกันทั้ง 4 ชั้นปีจะได้ร้อยละ 100  และแบบสอบถามได้แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่1 การใช้ และ ในกรณีที่เป็นคำบุพบทและคำสันธาน จำนวน10 ข้อ และตอนที่2 การใช้ และ ในโครงสร้างต่างๆ จำนวน 20 ข้อ
                ผลจากการศึกษาพบว่าไวยากรณ์“跟” และ“和”สามารถใช้ร่วมกับคำนาม คำสรรพนาม และนามวลีได้ นอกจากนี้ไวยากรณ์ “和” ยังสามารถใช้ร่วมกับคำกริยา  กริยาวลี  และคำคุณศัพท์ได้ ในขณะที่โครงสร้างไวยากรณ์ของ  ไม่สามารถใช้ได้ และนักศึกษามีปัญหาการใช้ไวยากรณ์“跟” และ“和”ในแบบสอบถาม โดยนักศึกษาตอบถูกทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 42.03  และตอบผิดทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 57.97 โดยในแบบสอบถามตอนที่ 2 คือการใช้ และ ในโครงสร้างต่างๆ พบว่านักศึกษาตอบผิดทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 58.54 สาเหตุที่นักศึกษาตอบผิด คือ ไม่เข้าใจความหมายของประโยคและเกิดความสับสนในการใช้ไวยากรณ์ และ และในแบบสอบถามตอนที่ 1 คือ การใช้ และ ในกรณีที่เป็นคำบุพบทและคำสันธาน พบว่านักศึกษาตอบผิดทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 56.59 สาเหตุที่นักศึกษาตอบผิด คือ มีความสับสนระหว่างคำบุพบทและคำสันธาน จากการทำแบบสอบถามโดยรวมแล้วนักศึกษามีปัญหาการใช้ไวยากรณ์“跟”ผิดมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 58.54 และ นักศึกษามีปัญหาในการใช้ไวยากรณ์“和”ผิดน้อยที่สุด คิดเป็นร้อยละ 57.53  
                แนวทางการแก้ไขปัญหาสำหรับไวยากรณ์ และ คือ นักศึกษาควรที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างและวิธีการใช้ไวยากรณ์ และ ให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง นอกจากนี้ควรมีการฝึกใช้ไวยากรณ์ และในสถานการณ์ที่แตกต่างกันให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการสื่อสารด้วยภาษาจีนกลาง

中文摘要

题目              乌汶大学人文学院中文专业学生使用“跟”与 “和”
           语法问题的研究
关键词           汉语语法       介词      连词     “跟”    “和”

本文的目的对乌汶大学人文学院中文专业学生使用“跟”与 “和”语法问题进行研究,研究方法是对乌汶大学人文学院中文专业学生进行关于使用方法的问卷调查研究,研究对象其从一年级到大学四年级164 位学生中抽取 41 位学生。每年级人数占总人数的 25 %,四个年级加起来共 100 %。问卷调查分为两部分:第一部分是对“跟”与“和”作为介词和连词的使用方法调查,一共 10 个题,第二部分是  “跟”与“和”的语法结构使用方法调查,一共20 个题。
从问卷调查中得知,都可以与连词,代词,名词词组连用,除此之外,还可以与动词,动词词组,形容词连用,的语法结构却不可以。大学一年级学生到大学四年级学生全部答对的占42.03 %,全错的占57.97  % 。经过总结发现学生在问卷调查的第二部分--“跟”与“和”语法结构的使用方法,答错的占 57.59 %,原因是不明白句子的意思,不清楚“跟”与“和”的用法,所以不确定应该用哪个才正确。第一部分--“跟”与“和”作为介词和连词的使用方法,答错的占 56.69 %, 原因是不明白句子的意思,不清楚介词和连词的用法。另外学生做问卷调查得知,“跟”的使用方法,错误的占58.54 %,其次“和”的使用方法,错误的占57.53 %由此可知,学生对的语法知识了解得还不错。  
要解决使用“跟”与“和”语法问题的方法是:学习研究“跟”与“和”的语法结构和使用方法,以便明白其意思,掌握用法,正确地使用。除此之外,为了根据不同语境选择适当的“跟”与“和”,正确有效地使用汉语,我们还应该区别注意“跟”与“和”的使用方法。


สรุปผล  ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะผลการวิจัย
研究成果,研究的障碍及提议

ผลการวิจัยที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาการทำวิจัยเรื่อง การศึกษาปัญหาการใช้ไวยากรณ์“跟” และ“和” ของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อที่จะนำไปพัฒนา แก้ไขปรับปรุงและใช้ประกอบการเรียนการสอนภาษาจีน ซึ่งจะแยกออกเป็นการสรุปผลการวิจัย  ปัญหาและอุปสรรค  และข้อเสนอแนะ ดังนี้

5.1 สรุปผลการวิจัย:(研究的效果)
                จากการศึกษาปัญหาการใช้ไวยากรณ์“跟” และ“和”  ของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สามารถสรุปผลการวิจัยออกเป็นข้อย่อยได้ดังนี้
                5.1.1   ความหมายของ“跟” และ“和”  :(“跟”与“和”的意义)
                                5.1.1.1   ความหมายของ “跟” สามารถสรุปได้ ดังนี้
                                                1.)   (คำนาม) ส้นเท้า, ส้นถุงเท้า, ส้นรองเท้า
                                                2.)   (คำกริยา) ตาม, ตามหลัง
                                                3.)   (คำกริยา) ช้างเท้าหลัง (หมายถึงหญิงที่แต่งงานไปแล้ว)
                                                4.)   (คำบุพบท) บุพบทที่ใช้น้าวนำในการกระทำ
a) กับ
                                                                b) กับ, ให้
                                5.)  (คำบุพบท) บุพบทที่ใช้ในการน้าวนำเป้า หรือเปรียบเทียบว่าเหมือน
                                     หรือแตกต่างกัน (กับ)
                                                6.)  (คำสันธาน) แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ร่วมกัน (และ)
                                5.1.1.1   ความหมายของ “和” สามารถสรุปได้ ดังนี้
                                                1.)  (คำคุณศัพท์) อ่อนโยน, ละมุนละม่อม,ละมุนละไม, เยือกเย็น
                                                2.)  (คำคุณศัพท์) กลมกลืน, ถูกกัน
                                                3.)  (คำกริยา) สงบศึก
                                                4.)  (คำกริยา)   เสมอกัน  (ใช้สำหรับการแข่งขันหรือการเล่นหมากรุก)
                                                5.)  (คำนาม)   ชื่อสกุลของชาวจีน
                                                6.)  (คำคุณศัพท์) พร้อมกัน
                                                7.)  (คำบุพบท) มีความหมายแสดงว่าเกี่ยวข้องกัน, เปรียบเทียบกัน
                                                8.)  (คำสันธาน)   มีความหมายแสดงว่ารวมกัน (และ,กับ)
                                                9.)  (คำนาม) ผลบวก, ผลรวม (ใช้ในทางคณิตศาสตร์)
                                                10.)  (คำนาม) ญี่ปุ่น         

                5.1.2   โครงสร้างและวิธีการใช้“跟” และ“和” :(“跟”与“和”的语法结构和使用方法
                                5.1.2.1   โครงสร้างและวิธีการใช้“跟”สามารถแบ่งได้ดังนี้             
1.)   คำนาม + + คำนาม
2.)   คำสรรพนาม +“跟” + คำสรรพนาม
3.)   นามวลี +“跟” + นามวลี
4.)   ….….跟不跟……..?”
5.)   ….….……..吗?”
6.)   主语(สิ่งที่เปรียบเทียบ+ 状语
บุพบท+สิ่งที่เปรียบเทียบ+ 谓语ผลของการเปรียบเทียบ
5.1.2.2   โครงสร้างและวิธีการใช้“和”สามารถแบ่งได้ดังนี้
1.)   คำนาม + “和” + คำนาม
2.)   คำสรรพนาม +“和” + คำสรรพนาม
3.)   นามวลี +“和” + นามวลี
4.)   คำกริยา +“和” + คำกริยา
5.)   กริยาวลี +“和” + กริยาวลี
6.)   คำคุณศัพท์ +“和” + คำคุณศัพท์
7.)   ….….……..吗?”

                5.1.3   ความแตกต่างของ“跟” และ“和”  :(“跟”与“和”的差别)
ความแตกต่างทางโครงสร้างไวยากรณ์  และ  คือ โครงสร้างของไวยากรณ์  ที่ใช้ในประโยคคำถามสามารถใช้รูปแบบ ….….跟不跟……..?”ได้ แต่โครงสร้างไวยากรณ์   ไม่สามารถใช้ได้ นอกจากนี้โครงสร้างของไวยากรณ์   ยังสามารถใช้ร่วมกับคำกริยา กริยาวลี และคำคุณศัพท์ได้ ในขณะที่โครงสร้างไวยากรณ์ของ ไม่สามารถใช้ได้
แม้ความหมายและโครงสร้างไวยากรณ์ของ  และ  จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ก็อาจทำให้ผู้เรียนภาษาจีนเกิดความสับสนในการใช้ได้ เนื่องจาก  และ  นั้นคือคำเชื่อมที่สามารถเป็นได้ทั้งคำบุพบทและคำสันธาน
ตัวอย่างเช่น          (跟/和)小明都学习英文。 
                                                    ฉันกับเสี่ยวหมิงเรียนภาษาอังกฤษทั้งคู่
昨天她只(跟/和)丁丁说这个事。
                     เมื่อวานเขาบอกติงติงเรื่องนี้คนเดียว
他跑的速度(和)走的速度差不多。 
                      เขาวิ่งช้าพอๆกับเดิน
ในประโยคแรกถ้าวางกับ 小明 สลับที่กันความหมายยังเหมือนเดิม ส่วนประโยคที่สอง ถ้าวาง   กับ 丁丁 สลับที่กัน ความหมายก็จะเปลี่ยนเป็น “ติงติงบอกเขา” และประโยคที่สาม ถ้าวาง跑的速度 กับ 走的速度สลับที่กันความหมายก็จะเปลี่ยนเป็น “เดินเร็วพอๆกับวิ่ง” ซึ่งมีความหมายแตกต่างไปจากเดิม ที่เป็นเช่นนี้เพราะในประโยคแรก และ ทำหน้าที่เป็นคำสันธาน ทำหน้าที่เชื่อมสองคำที่มีฐานะเท่าเทียมกัน ดังนั้นใครอยู่หน้าหรือใครอยู่หลัง ความหมายจึงไม่เปลี่ยนไป ส่วนในประโยคที่สองและสาม และ ทำหน้าที่เป็นคำบุพบท กรรมของบุพบทบอกใครเป็นเป้ารับกริยาอาการหรือใครเป็นสิ่งที่นำมาเปรียบเทียบ จึงทำให้ความหมายเปลี่ยนไป

                5.1.4   ปัญหาการใช้ไวยากรณ์“跟” และ“和”
                การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาปัญหาการใช้ไวยากรณ์และของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยการแจกแบบสอบถามให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1-4  จำนวน 41 คน  จากนักศึกษาจำนวนทั้งหมด 164  คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของทุกชั้นปี เมื่อคิดรวมกันทั้ง 4 ชั้นปีจะได้ร้อยละ 100 แบ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่1 จำนวน 8 คน นักศึกษาชั้นปีที่2 จำนวน 11 คน นักศึกษาชั้นปีที่3 จำนวน 10 คน และนักศึกษาชั้นปีที่4 จำนวน 12 คน ซึ่งแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่1 การใช้และในกรณีที่เป็นคำบุพบทและคำสันธาน จำนวน10 ข้อ และตอนที่2 การใช้และในโครงสร้างต่างๆ จำนวน 20 ข้อ มีผลดังนี้
                5.1.4.1   ปัญหาในการทำแบบสอบถามตอนที่ 1
นักศึกษาชั้นปีที่  ทำแบบสอบถามถูก คิดเป็น ร้อยละ 42.50
                                                                                   ทำแบบสอบถามผิด คิดเป็น ร้อยละ 57.50  
                                                นักศึกษาชั้นปีที่ 2   ทำแบบสอบถามถูก คิดเป็น ร้อยละ 46.36
                                                                                   ทำแบบสอบถามผิด คิดเป็น ร้อยละ 53.64 
                                                นักศึกษาชั้นปีที่  ทำแบบสอบถามถูก คิดเป็น ร้อยละ 44.00
                                                                                   ทำแบบสอบถามผิด คิดเป็น ร้อยละ 56.00  
                                                นักศึกษาชั้นปีที่ 4   ทำแบบสอบถามถูก คิดเป็น ร้อยละ 40.83
                                                                                   ทำแบบสอบถามผิด คิดเป็น ร้อยละ 59.17  
                จากการทำแบบสอบถามของนักศึกษาทั้ง 4 ชั้นปี สามารถสรุปได้ว่า ในส่วนที่ 1 คือ การใช้และในกรณีที่เป็นคำบุพบทและคำสันธาน พบว่า นักศึกษาทำแบบสอบถาม ถูกทั้งหมด คิดเป็น ร้อยละ 43.41 และ ผิดทั้งหมด คิดเป็น ร้อยละ 56.59
                                5.1.4.2   ปัญหาในการทำแบบทดสอบตอนที่
นักศึกษาชั้นปีที่  ทำแบบสอบถามถูก คิดเป็น ร้อยละ 38.75  
                                                                                   ทำแบบสอบถามผิด คิดเป็น ร้อยละ 61.25  
                                                นักศึกษาชั้นปีที่ 2   ทำแบบสอบถามถูก คิดเป็น ร้อยละ 42.73
                                                                                   ทำแบบสอบถามผิด คิดเป็น ร้อยละ 57.27 
                                                นักศึกษาชั้นปีที่  ทำแบบสอบถามถูก คิดเป็น ร้อยละ 42.50
                                                                                   ทำแบบสอบถามผิด คิดเป็น ร้อยละ 57.50  
                                                นักศึกษาชั้นปีที่ 4   ทำแบบสอบถามถูก คิดเป็น ร้อยละ 41.25
                                                                                   ทำแบบสอบถามผิด คิดเป็น ร้อยละ 58.75  
                จากการทำแบบสอบถามของนักศึกษาทั้ง 4 ชั้นปี สามารถสรุปได้ว่า ในส่วนที่ 2  คือ การใช้และในโครงสร้างต่างๆ พบว่า นักศึกษาทำแบบสอบถาม ถูกทั้งหมด คิดเป็น ร้อยละ 41.46 และ ผิดทั้งหมด คิดเป็น ร้อยละ 58.54
จากภาพรวมของการทำแบบสอบถามสามารถสรุปได้ว่า นักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 ทำแบบสอบถามเรื่องไวยากรณ์และถูกทั้งหมด คิดเป็น ร้อยละ42.03   และทำแบบสอบถามเรื่องไวยากรณ์และผิดทั้งหมด ร้อยละ57.97 ซึ่งถือว่านักศึกษามีความรู้ในเรื่องไวยากรณ์และในระดับที่ดีพอสมควร
                 
5.2 ปัญหาและอุปสรรค:(研究的问题)
                5.2.1 ปัญหาในการสืบค้นและการสำรวจข้อมูล คือ เอกสารและหนังสือที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยยังมีน้อย ไม่เพียงพอในการสืบค้นข้อมูล และนักศึกษาไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร มีนักศึกษาบางคนไม่อ่านแบบทดสอบและไม่พยายามใช้ความสามารถในการตอบแบบทดสอบ ลอกแบบทดสอบ และบางส่วนก็ไม่ให้ความร่วมมือหลีกเลี่ยงการทำแบบทดสอบ  จึงเกิดความล่าช้าในการเก็บรวบรวมข้อมูลในส่วนนี้
             5.2.2 ปัญหาในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ความยุ่งยากในแต่ละขั้นตอนของการวิจัย เพราะจะต้องทำการวิจัย วิเคราะห์และสรุปข้อมูลของแต่ละคนในแต่ละข้อ และแต่ละชั้นปี จากการตอบแบบทดสอบ แล้วนำมาหาค่าเฉลี่ยและตรวจทานความถูกต้องของจำนวนผลลัพธ์ที่ได้

5.3 ข้อเสนอแนะ:(提供)
                  การศึกษาปัญหาการใช้ไวยากรณ์และ ในครั้งนี้ เป็นการศึกษาเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในความหมายและวิธีการใช้ไวยากรณ์และ และเพื่อให้ทราบถึงปัญหาการใช้ไวยากรณ์และ ของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และผู้ที่สนใจจะศึกษาหรือทำวิจัยในเรื่องนี้ ควรที่จะขยายหรือเปลี่ยนขอบเขตการวิจัยจากระดับอุดมศึกษาเป็นระดับมัธยมศึกษา  นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาในเรื่องของโครงสร้างและที่ใช้ในภาษาข่าว นิยาย หรืออินเตอร์เน็ต เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจต่อไป

没有评论:

发表评论