ชื่อสารนิพนธ์ การศึกษาวิเคราะห์ตัวอักษรจีนที่ใช้ตัวอักษร 力 เป็นตัวประกอบ
论文题目:与“力”字有关的汉字研究
ผู้เขียน นางสาวอรอนงค์ รักจันทร์ 滥思伊
นางสาวจินตหรา สุวรรณเทน 苏金兰
รหัสประจำตัวนักศึกษา 50147551
50147523
ที่อยู่ 44 หมู่ที่ 11 บ้านหนองเหล่า ตำบลหนองเหล่า อำเภอม่วงสามสิบ
ที่อยู่ 44 หมู่ที่ 11 บ้านหนองเหล่า ตำบลหนองเหล่า อำเภอม่วงสามสิบ
จังหวัดอุบลราชธานี 34140
2 หมู่ที่ 1 บ้านหนองเหล่า ตำบลหนองเหล่า อำเภอม่วงสามสิบ
จังหวัดอุบลราชธานี 34140
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์วกุล ธีรวงศกร
อาจารย์เจ้าของภาษา Wang Wei
บทคัดย่อภาษาไทย
ชื่อเรื่อง : การศึกษาวิเคราะห์ตัวอักษรจีนที่ใช้ตัวอักษร力เป็นตัวประกอบ
คำสำคัญ : ความหมาย ,หมวดนำ, คำศัพท์, ตัวอักษร 力,ความหมายของ力
การศึกษาวิเคราะห์เรื่องตัวอักษรจีนที่ใช้ตัวอักษร力เป็นตัวประกอบ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการความเป็นมาของตัวอักษรจีน ศึกษาลักษณะการประกอบกันของตัวอักษรที่ได้จากการประกอบกันระหว่าง 2 ตัวอักษรเดี่ยว ศึกษาตัวอักษรจีนที่มีคำว่า力เป็นตัวประกอบว่าตัวอักษรที่มาประกอบกันนั้นสามารถบอกโครงสร้างอะไรได้บ้าง ศึกษาความหมายของตัวอักษรจีนที่มีคำว่า力เป็นตัวประกอบและจัดกลุ่มคำศัพท์ตามความหมายของคำศัพท์แต่ละตัวโดยศึกษาและรวบรวมข้อมูลจาก หนังสือ เอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้องและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยนำคำศัพท์ภาษาจีนที่ใช้ 力 เป็นตัวประกอบจำนวน 143 คำศัพท์ มาแยกประเภทและศึกษาวิเคราะห์เพื่อทราบถึงความหมายและโครงสร้างของคำศัพท์ภาษาจีนที่มี力เป็นตัวประกอบ
ในการศึกษาวิจัยนี้ ได้นำเอาตัวอักษรเดี่ยวสองตัวมาประกอบกันเพื่อให้เกิดตัวอักษรใหม่ขึ้น จำนวนตัวอักษรที่นำมาศึกษามีจำนวน 143 ตัวอักษร จากตัวอักษรดังกล่าวได้แบ่งกลุ่มข้อมูลที่ศึกษาสามารถแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่มคือ
1. วิเคราะห์ตามความหมาย แบ่งเป็น
1.1 ความหมายตรง คิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์
1.2 ความหมายแผลง คิดเป็น 62 เปอร์เซ็นต์
1.3 ความหมายแฝง คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์
2. วิเคราะห์ตามโครงสร้าง แบ่งเป็น
2.1โครงสร้างประกอบด้านข้าง คิดเป็น 42 เปอร์เซ็นต์
2.2 โครงสร้างประกอบด้านบน คิดเป็น 4 เปอร์เซ็นต์
2.3 โครงสร้างประกอบด้านล่าง คิดเป็น 16 เปอร์เซ็นต์
2.4 โครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านใน คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์
2.5 โครงสร้างที่ประกอบกับตัวอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่ง คิดเป็น 34 เปอร์เซ็นต์
การศึกษาวิเคราะห์ตัวอักษรจีนที่มี力เป็นตัวประกอบในครั้งนี้ ทำให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการความเป็นมาของตัวอักษรจีน การผสมกันระหว่างอักษรเดี่ยวสองตัว ทำให้เกิดเป็นอักษรใหม่ที่มีความหมายใหม่เกิดขึ้น ทำให้ทราบว่าในแต่ละตำแหน่งของตัวอักษรต่างก็มีหน้าที่ต่างกัน ตัวอักษรที่มีตำแหน่งต่างกันก็จะมีหน้าที่ต่างกันไป บางตำแหน่งอาจจะบอกในเรื่องของเสียง บางตำแหน่งบอกในเรื่องความหมาย และยังมีอีกตำแหน่งที่ไม่บอกอะไรเลย แม้กระทั่งในเรื่องเสียงและความหมายพบว่าเกิดเป็นคำใหม่และมีความหมายใหม่เพิ่มขึ้นตามมา จึงเป็นความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการประกอบการเรียนการสอนภาษาจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
中文摘要
题目:与“力”字有关的汉字研究论文
关键词:意义、部首、生词、汉字“力”、“力”的意义
本文研究的目的是收集有关的汉字演变、汉字组合的方法。汉字组合的方法是对两个单独部件进行组合。本文主要针对组合后意义、然后把每个汉字的意义进行分类。在学术资料、书籍、相关研究和因特网上收集有关的资料。研究方法是对一百四十三个与“力” 字有关的汉字判别分析意义,以便了解汉字的意义和汉字的结构。
通过对一百四十三个与“力” 字有关系的汉字判别种类分析意义,发现其可以分为两种:
(一) 分析汉字的意义
(一)意义相同的占8%
(二)意义不同的占62%
(三)意义有些微联系的占30%
(二)分析汉字的结构
(一)在汉字旁边的占42%
(二)在汉字上边的占4%
(三)在汉字下边的占16%
(四)在汉字内边的占20%
(五)与一部件组合后其它部件组合的占34%
研究发现:对带有“力字旁”的汉字的研究, 有特别的造字法。学习者要掌握汉字的发展和造字法。在汉语造字法的方面,分别为组成后新意为与“力”意义有关;与“力”意义无关,与“力”意义有关,但意义改变三个方面。在汉语的结构方法上,“力字旁”可以做形旁、声旁或对汉字的声音和意义产生影响。研究者希望这项研究的成果对汉语教学有所帮助,能够把研究成果应用于汉语教学使交流更清楚,更有效率。
สรุปผลการวิจัย 研究成果
วัตถุประสงค์ของงานวิจัย(研究目的)
1.2.1 เพื่อศึกษาลักษณะการประกอบตัวอักษรจีน
1.2.2 เพื่อศึกษาตัวอักษรจีนที่มีคำว่า力เป็นตัวประกอบ
1.2.3 เพื่อศึกษาความหมายของตัวอักษรจีนที่มีคำว่า力 เป็นตัวประกอบและจัดกลุ่มคำศัพท์ตาม
ความหมายของศัพท์แต่ละตัว
1.2.4 เพื่อนำผลงานวิจัยที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนภาษาจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การศึกษาวิจัยเรื่องการศึกษาวิเคราะห์ตัวอักษรจีนที่ใช้ตัวอักษร力เป็นตัวประกอบ การศึกษาในครั้งนี้ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับความหมายและโครงสร้างประกอบของตัวอักษร力เพื่อที่จะนำผลการศึกษาที่ได้ไปใช้เป็นแนวทางการเรียนการสอนภาษาจีน เมื่อผู้วิจัยได้ทำการศึกษาทำให้ทราบถึงวิวัฒนาการความเป็นมาของตัวอักษร การผสมกันระหว่างตัวอักษรเดี่ยวสองตัว ทำให้เกิดเป็นตัวอักษรใหม่ที่มีความหมายใหม่ ในแต่ล่ะตำแหน่งของตัวอักษรต่างมีหน้าที่ต่างกันตัวอักษรที่มีตำแหน่งต่างกันก็จะมีหน้าที่ต่างกันไป บางตำแหน่งอาจจะบอกในเรื่องของเสียง บางตำแหน่งอาจบอกในเรื่องของความหมาย และก็ยังมีบางตำแหน่งที่ไม่บอกอะไรเลย แม้กระทั้งในเรื่องของเสียงและความหมายได้เกิดเป็นคำใหม่และมีความหมายใหม่ตามมา จากการศึกษาวิจัยนี้ผู้วิจัยได้ทำการสรุปผลการศึกษา บอกถึงปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่งสามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้
5.1 ผลการศึกษา (研究成果)
5.1.1 การศึกษาวิเคราะห์โดยการใช้วิธีการจัดแบ่งประเภทของข้อมูลโดยการแบ่งกลุ่มความหมายของตัวอักษร(分析汉字的意义) พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์ความหมายที่เกิดขึ้นมีความเหมือนและใกล้เคียงกันและมีความหมายที่แตกต่างกันออกไปในบางกลุ่ม เมื่อพิจารณาตามกลุ่มของความหมายมีเพียงกลุ่มข้อมูลส่วนน้อยที่มีความหมายต่างกันออกไป
5.1.1.1 ความหมายเหมือน(意义相同) (จำนวนข้อมูล 12 ตัว) เป็นกลุ่มของตัวอักษรที่มีความหมายเหมือนและใกล้เคียงมากที่สุดในจำนวนร้อยละ8 (8.39%) ของกลุ่มข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด (จำนวนข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด 143 ตัวอักษร)
(1) ตัวอักษรจีนที่มีความหมายว่าแรงหรือแรงงาน(有关“力量”或者劳动的意思同) (จำนวนข้อมูล 6 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่คล้ายและใกล้เคียงในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 50 (50%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายเหมือน
(2) ตัวอักษรจีนที่มีความหมายว่ากำลัง, พลัง, ความสามารถ(有关“能力”的意思词) (จำนวนข้อมูล 6 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่คล้ายและใกล้เคียงในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 50 (50%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายเหมือน
จากข้อมูลที่ได้ในการศึกษาวิเคราะห์ประเภทของข้อมูลโดยแบ่งตามกลุ่มความหมายของตัวอักษรที่เป็นความหมายเหมือน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มความหมายเหมือน พบว่าตัวอักษรจีนที่มีความหมายว่าแรงหรือแรงงานกับตัวอักษรจีนที่มีความหมายว่ากำลัง พลัง ความสามารถ มีจำนวนความหมายเหมือนในระดับเท่ากัน
5.1.1.2 ความหมายแผลง (意义不同) (จำนวนข้อมูล 89 ตัว) เป็นกลุ่มของตัวอักษรที่มีความหมายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจำนวนร้อยละ62 (62.24%) ของกลุ่มข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด (จำนวนข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด 143 ตัวอักษร)
(1) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับน้ำ(有关“水”的意思词) (จำนวนข้อมูล 11 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ12 (12.35%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(2) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับความเป็นผู้หญิง(有关“女性”的意思词) (จำนวนข้อมูล 5 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 5 (5.61%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(3) ตัวอักษร ที่มีความหมายเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดี (有关“不好”意思词)(จำนวนข้อมูล 7 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 7 (7.86%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(4) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับหิน(有关“石头”的意思词) (จำนวนข้อมูล 2 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 2 (2.24%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(5) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับจิตใจ (有关“心灵”的意思词)(จำนวนข้อมูล 2 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 2 (2.24%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(6) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับเครื่องดนตรี(有关“乐器”的意思词) (จำนวนข้อมูล 2 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 2 (2.24%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(7) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพต่างๆ(有关“地理”的意思词) (จำนวนข้อมูล 5 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 5 (5.61%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(8) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับพืช(有关“植物”的意思词) (จำนวนข้อมูล 8 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 8 (8.98%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(9) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับร่างกาย(有关“身体”的意思词) (จำนวนข้อมูล 5 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 5 (5.61%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(10) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับเสียงหรือคำพูด(有关“声音和话”的意思词) (จำนวนข้อมูล 8 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 8 (8.98%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(11) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับลักษณะของนิสัยใจคอ (有关“习惯”的意思词)(จำนวนข้อมูล 4 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 4 (4.49%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(12) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับการซื้อขาย(有关“买卖”的意思词)
(จำนวนข้อมูล 2 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 2 (2.24%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(13) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับชื่อคนจีน (有关“中国人的名字”意思词) (จำนวนข้อมูล 4 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 4 (4.49%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
(14) ตัวอักษรจีนที่มีความหมายหลากหลาย(有关“多重”的意义词) (จำนวนข้อมูล 24 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 26 (26.96%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแผลง
จากข้อมูลที่ได้จากการศึกษาวิเคราะห์การจัดแบ่งประเภทของข้อมูลโดยแบ่งตามกลุ่มความหมายของตัวอักษรที่เป็นความหมายแผลง เมื่อพิจารณาตามกลุ่มความหมายแผลง พบว่ากลุ่มตัวอักษรจีนที่มีความหมายเกี่ยวกับน้ำมีจำนวนมากที่สุด และกลุ่มตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับหิน ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับเครื่องดนตรี ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับการซื้อขายมีจำนวนน้อยที่สุดในบรรดาความหมายแผลง
5.1.1.3 ความหมายแฝง(意义有些微联系) (จำนวนข้อมูล 42 ตัว) เป็นกลุ่มของตัวอักษรที่มีการบอกความหมายที่เป็นนัยไม่แสดงความหมายที่แท้จริงออกมา จำนวนร้อยละ29 (29.37%) ของกลุ่มข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด (จำนวนข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด 143 ตัวอักษร)
(1) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับคุณงามความดี(有关功绩的意思词) (จำนวนข้อมูล 6 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เป็นนัย คิดเป็นร้อย 14 (14.28%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแฝง
(2) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับการจับกุม การลักพาตัว(有关逮捕与绑架的意思词) (จำนวนข้อมูล 4 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เป็นนัย คิดเป็นร้อยละ 9 (9.52%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแฝง
(3) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับการทำงานหรือการกระทำ(有关“工作组行”的意义词) (จำนวนข้อมูล 6 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เป็นนัย คิดเป็นร้อยละ 14 (14.28%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแฝง
(4) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับการดำเนินการ(有关执行的意思词)(จำนวนข้อมูล 4 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เป็นนัย คิดเป็นร้อยละ 9 (9.52%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแฝง
(5) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับการออกแรง(有关“出力”的意思词) (จำนวนข้อมูล 8 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เป็นนัย คิดเป็นร้อยละ 19 (19.04%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแฝง
(6) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับการให้กำลังใจ(有关“意志力”的意思词)(จำนวนข้อมูล 3 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เป็นนัย คิดเป็นร้อยละ 7 (7.14%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแฝง
(7) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือหรือร่วมมือ (จำนวนข้อมูล 4 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เป็นนัย คิดเป็นร้อยละ 9 (9.52%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแฝง
(8) ตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับความกล้าหาญเข้มแข็ง(有关“帮助与合作”的意思词) (จำนวนข้อมูล 4 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เป็นนัย คิดเป็นร้อยละ 9 (9.52%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแฝง
(9) ตัวอักษรจีนที่มีความหมายหลากหลาย(有关“勇敢与强大”的意思词) (จำนวนข้อมูล 3 ตัว) ในภาพรวมแล้วมีความหมายที่เป็นนัย คิดเป็นร้อยละ 7 (7.14%) ของกลุ่มข้อมูลความหมายแฝง
จากข้อมูลที่ได้จากการศึกษาวิเคราะห์การจัดแบ่งประเภทของข้อมูลโดยแบ่งตามกลุ่มความหมายของตัวอักษรที่เป็นความหมายแฝง เมื่อพิจารณาตามกลุ่มความหมายแฝง พบว่ากลุ่มตัวอักษรจีนที่มีความหมายเกี่ยวกับการออกแรง มีจำนวนมากที่สุด และกลุ่มตัวอักษรที่มีความหมายเกี่ยวกับการให้กำลังใจ มีจำนวนน้อยที่สุดในบรรดาความหมายแฝง
สรุปผลจากการจัดแบ่งข้อมูลตามความหมายของตัวอักษร(研究成果分析汉字的意义)ในการศึกษาข้อมูลตัวอักษร力ที่มีความหมายว่า1 แรงที่สามารถทำให้วัตถุเคลื่อนไหวหรือหยุด 2 กำลัง; พลัง; ความสามารถ 3 พยายาม; มุ่งมานะ กับตัวอักษรเดี่ยวอีกตัวที่นำมาผสมกันที่มีความหมายต่างกัน เมื่อนำอักษรเดี่ยวทั้ง 2 ตัว มาประกอบกันความหมายที่ได้จึงมีความสัมพันธ์กันกับตัวอักษร力ค่อนข้างน้อย ความหมายที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นความหมายที่ไม่มีความสัมพันธ์กันกับตัวอักษร力เป็นส่วนมาก เนื่องจากการผสมกันระหว่างตัวอักษรเดี่ยวสองตัว ทำให้เกิดเป็นตัวอักษรใหม่ที่มีความหมายใหม่ขึ้น
5.1.2 การศึกษาวิเคราะห์โดยใช้การจัดแบ่งประเภทของข้อมูลโดยจัดแบ่งข้อมูลตาม โครงสร้างของตัวอักษร(分析汉字结构)พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์ตามโครงสร้างของตัวอักษรจีนแบ่งโครงสร้างออกเป็น 2 โครงสร้าง คือ โครงสร้างบอกตำแหน่งและโครงสร้างบอกเสียง
5.1.2.1 โครงสร้างประกอบด้านข้าง(在汉字旁边) (จำนวนข้อมูล 61 ตัว) เป็นโครงสร้างที่ประกอบด้านข้างมีหน้าที่ในการใช้บอกความหมาย และไม่บอกความหมายให้กับตัวอักษรที่ประกอบ จำนวนร้อยละ42 (42.65%) ของกลุ่มข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด (จำนวนข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด 143 ตัว)
(ก) บอกความหมาย (有意义) (จำนวนข้อมูล 29 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力 หรือไม่ก็บอกความหมายคร่าวๆเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ47 (47.54%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบด้านข้างที่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบด้านข้าง พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่บอกความหมายน้อยลงมารองจากโครงสร้างประกอบด้านข้างที่ไม่มีความหมาย เมื่อเทียบกันภายในกลุ่มโครงสร้างประกอบด้านข้าง
(ข) ไม่มีความหมาย(没有意义) (จำนวนข้อมูล 31 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力 หรือไม่ก็บอกความหมายคร่าวๆเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 50 (50.81%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบด้านข้างที่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบด้านข้าง พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่บอกความหมายมากที่สุด เมื่อเทียบกันภายในกลุ่มโครงสร้างประกอบด้านข้าง
5.1.2.2 โครงสร้างประกอบด้านบน(在汉字上边) (จำนวนข้อมูล 6 ตัว) เป็นโครงสร้างที่ประกอบด้านบนมีหน้าที่ในการใช้บอกความหมาย และไม่บอกความหมายให้กับตัวอักษรที่ประกอบ จำนวนร้อยละ 4 (4.19%) ของกลุ่มข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด (จำนวนข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด 143 ตัว)
(ก) บอกความหมาย (有意义) (จำนวนข้อมูล 2 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力 หรือไม่ก็บอกความหมายคร่าวๆเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ33 (33.33%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบด้านบนที่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบด้านบน พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่บอกความหมายน้อยลงมารองจากโครงสร้างประกอบด้านบนที่ไม่มีความหมาย เมื่อเทียบกันภายในกลุ่มโครงสร้างประกอบด้านบน
(ข) ไม่มีความหมาย(没有意义) (จำนวนข้อมูล 3 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力มีไว้ทำให้รูปแบบของตัวอักษรมีความแตกต่างไปจากตัวอักษรอื่นเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 50 (50%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบด้านบนที่ไม่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบด้านบน พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่บอกความหมายมากที่สุด เมื่อเทียบกันภายในกลุ่มโครงสร้างประกอบด้านบน
5.1.2.3 โครงสร้างประกอบด้านล่าง(在汉字下边) (จำนวนข้อมูล 24 ตัว) เป็นโครงสร้างที่ประกอบด้านล่างมีหน้าที่ในการใช้บอกความหมาย และไม่บอกความหมายให้กับตัวอักษรที่ประกอบ จำนวนร้อยละ16 (16.78%) ของกลุ่มข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด (จำนวนข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด 143 ตัว)
(ก) บอกความหมาย (有意义) (จำนวนข้อมูล 10 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力 หรือไม่ก็บอกความหมายคร่าวๆเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 41 (41.66%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบด้านล่างที่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบด้านล่าง พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่บอกความหมายน้อยลงมารองจากโครงสร้างประกอบด้านล่างที่ไม่มีความหมาย เมื่อเทียบกันภายในกลุ่มโครงสร้างประกอบด้านล่าง
(ข) ไม่มีความหมาย(没有意义) (จำนวนข้อมูล 16 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力มีไว้ทำให้รูปแบบของตัวอักษรมีความแตกต่างไปจากตัวอักษรอื่นเท่านั้น 66 (66.66%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบด้านล่างที่ไม่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบด้านล่าง พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่บอกความหมายมากที่สุด เมื่อเทียบกันภายในกลุ่มโครงสร้างประกอบด้านล่าง
5.1.2.4 โครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านใน(在汉字内边) (จำนวนข้อมูล 30 ตัว) เป็นโครงสร้างที่วางอยู่ด้านในของตัวประกอบมีหน้าที่ในการใช้บอกความหมาย และยังไม่บอกความหมายให้กับตัวอักษรที่ประกอบ จำนวนร้อยละ20 (20.97%) ของกลุ่มข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด (จำนวนข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด 143 ตัว)
(ก) บอกความหมาย (有意义) (จำนวนข้อมูล 5 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力 หรือไม่ก็บอกความหมายคร่าวๆเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 16 (16.66%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านในที่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านใน พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่บอกความหมายน้อยลงมารองจากโครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านในที่ไม่มีความหมาย เมื่อเทียบกันภายในกลุ่มโครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านใน
(ข) ไม่มีความหมาย(没有意义) (จำนวนข้อมูล 24 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力มีไว้ทำให้รูปแบบของตัวอักษรมีความแตกต่างไปจากตัวอักษรอื่นเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 80 (80%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านในที่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านใน พบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่บอกความหมายมากที่สุด เมื่อเทียบกันภายในกลุ่มโครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านใน
5.1.2.5 โครงสร้างที่ประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่ง(与一部件组合后在与其,它部件组合) (จำนวนข้อมูล 50 ตัว) เป็นโครงสร้างที่ประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่ง มีหน้าที่ในการใช้บอกความหมาย และไม่บอกความหมายให้กับตัวอักษรที่ประกอบ จำนวนร้อยละ34 (34.96%) ของกลุ่มข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด (จำนวนข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมด 143 ตัว)
(ก) บอกความหมาย (有意义) (จำนวนข้อมูล 13 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力 หรือไม่ก็บอกความหมายคร่าวๆเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 26 (26%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่งที่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่งพบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่บอกความหมายน้อยลงมารองจากโครงสร้างประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่งที่ไม่มีความหมาย เมื่อเทียบกันภายในกลุ่มโครงสร้างประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่ง
(ข) ไม่มีความหมาย(没有意义) (จำนวนข้อมูล 49 ตัว) ในภาพรวมแล้วความหมายที่ได้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวอักษร 力มีไว้ทำให้รูปแบบของตัวอักษรมีความแตกต่างไปจากตัวอักษรอื่นเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 98 (98%) ของกลุ่มข้อมูลโครงสร้างประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่งที่ไม่บอกความหมาย เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่งพบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์อยู่ในระดับที่มีจำนวนที่ไม่บอกความหมายมากที่สุด เมื่อเทียบกันกับโครงสร้างประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่งแล้วบอกความหมาย
สรุปผลจากการจัดแบ่งข้อมูลตามโครงสร้างของตัวอักษร(研究成果分析汉字的结构) ตามโครงสร้างของตัวอักษรจีนแบ่งโครงสร้างออกเป็น 5 โครงสร้าง คือ โครงสร้างประกอบด้านข้าง โครงสร้างประกอบด้านบน โครงสร้างประกอบด้านล่าง โครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านใน และโครงสร้างที่ประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอี กตัวอักษรหนึ่ง ทั้งห้าแบบนี้ต่างก็บอกในเรื่องของความหมายและไม่มีความหมาย จะเห็นว่ามีการใช้โครงสร้างประกอบด้านข้างมากกว่าโครงสร้างประกอบในด้านอื่นๆที่อยู่ในรูปแบบโครงสร้างบอกตำแหน่งซึ่งดูจากปริมาณของตัวอักษรแล้วสามมารถสรุปได้ว่าโครงสร้างประกอบด้านหน้านิยมใช้มากกว่าโครงสร้างที่ประกอบด้านอื่นๆที่อยู่ในรูปแบบโครงสร้างบอกตำแหน่ง
แผนภูมิการแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลของตัวอักษร力จากวิธีการจัดแบ่งของข้อมูลข้างต้น
แสดงวิธีการจัดแบ่งประเภทของข้อมูลโดยการแบ่งกลุ่มความหมายของตัวอักษร
แผนภูมิที่ 1 การจัดแบ่งประเภทของข้อมูลตามกลุ่มวามหมายของตัวอักษร
แสดงวิธีการจัดแบ่งประเภทของข้อมูลโดยการแบ่งกลุ่มโครงสร้างของตัวอักษร
การจัดแบ่งประเภทของข้อมูลโดยการแบ่งกลุ่มโครงสร้างของตัวอักษร มี 5 โครงสร้าง คือ โครงสร้างประกอบด้านข้าง โครงสร้างประกอบด้านบน โครงสร้างประกอบด้านล่าง โครงสร้างประกอบที่อยู่ด้านใน โครงสร้างที่ประกอบกับอักษรอื่นมาก่อนแล้วไปประกอบกับอีกตัวอักษรหนึ่
แสดงวิธีการจัดแบ่งประเภทของข้อมูลโดยการแบ่งกลุ่มโครงสร้าง
แผนภูมิที่ 3 โครงสร้างบอกตำแหน่ง
5.2 ปัญหาและอุปสรรคในการทำวิจัย(研究中的问题)
(1.) พจนานุกรมกรมที่ต้องการมีจำนวนน้อย ทำให้การค้นหาคำศัพท์ในพจนานุกรมเป็นไปได้ลำบาก
(2.) เอกสารประกอบการวิจัยมีน้อยเนื่องจากการศึกษาตัวอักษรจีนที่มี力เป็นส่วนประกอบยังไม่ค่อย ได้รับความสนใจมากนัก ทำให้ข้อมูลในเรื่องนี้มีน้อย และทำให้ยากในการหาข้อมูลประกอบ
(3.) ความหมายของคำศัพท์ไม่มีในพจนานุกรม เนื่องจากเป็นคำศัพท์ที่สร้างใหม่ ทำให้พจนานุกรมที่พิมพ์ก่อนหน้า ไม่มีความหมายของคำศัพท์
(4.) เวลาในการทำวิจัยน้อย ทำให้ขั้นตอนการข้อมูลเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะต้องแข่งกับเวลา
5.3 ข้อเสนอแนะ(研究建议)
จากการทำวิจัยในหัวข้อนี้ ผู้วิจัยได้ศึกษาตัวอักษรจีนที่มี 力 เป็นส่วนประกอบ ได้พบข้อเสนอแนะเพื่อการศึกษาในครั้งต่อไป ควรศึกษาในเรื่องวิวัฒนาการของตัวอักษรจีนเพิ่มเติม เนื่องจากตัวอักษรจีนมีวิวัฒนาการมาหลายยุคหลายสมัยเป็นเรื่องที่น่าศึกษาอย่างมากและควรจะเพิ่มชนิดคำของตัวอักษรจีนตัวนั้นๆว่ามีหน้าที่อะไร และควรมีการศึกษาในเรื่องของปัญหาการใช้ตัวอักษรจีนที่ใช้ตัว力เป็นตัวประกอบ เพราะผู้วิจัยได้ศึกษาเฉพาะความหมายและโครงสร้างของคำศัพท์เท่านั้น
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ(预期成果)
1.3.1 มีความเข้าใจการประกอบกันของตัวอักษรจีน
1.3.2 มีความเข้าใจตัวอักษรจีนที่มีคำว่า力เป็นตัวประกอบ
1.3.3 มีความเข้าใจในความหมายของตัวอักษรจีนที่มีคำว่า力เป็นตัวประกอบและการจัดกลุ่มคำศัพท์
ตามความหมายของคำศัพท์ในแต่ละตัว
1.3.4 สามารถนำผลงานวิจัยมาใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนภาษาจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก
ยิ่งขึ้น
ระเบียบวิธีวิจัย(研究方法)
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีการกำหนดวิธีวิจัยดังนี้
1. ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล
- หนังสือคำศัพท์จีน-ไทย โดยการรวบรวมข้อมูลหรือความหมายของตัวอักษรจีน
ที่ใช้力เป็นตัวประกอบ
- พจนานุกรมจีน-ไทย โดยการรวบรวมคำศัพท์หรือความหมายของตัวอักษรจีน
ที่ใช้力เป็นตัวประกอบ
-วิทยานิพนธ์และงานวิจัย โดยนำข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับหมวดนำอักษรจีน
มาศึกษาและสรุปว่ามีแนวคิดอย่างไร
- สื่ออินเตอร์เน็ต โดยการสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซด์ที่เกี่ยวกับหมวดนำ
ตัวอักษรภาษาจีน
2 การคัดเลือกข้อมูล
-โดยการคัดเลือกเฉพาะคำศัพท์ที่มีคำว่า力เป็นตัวประกอบ จากพจนานุกรมเพื่อนำมาศึกษาความหมายของคำศัพท์
3 การวิเคราะห์ข้อมูล
-นำตัวอักษรจีนที่คำว่า力เป็นตัวประกอบมาแยกเป็นกลุ่มๆโดยการใช้ความหมายของตัวที่ศึกษามาเป็นตัวกำหนดในการวิเคราะห์หาความแตกต่างทั้งทางด้านความหมายและทางด้านโครงสร้างของตัวอักษร
没有评论:
发表评论